ในสมัยที่หลวงพ่อท่านยังมีชีวิตอยู่ เคยพูดเสมอว่า "สมบัติทั้งหลาย พ่อมอบให้ลูกๆทุกคน แม้แต่คำสอน พ่อสอนโดยไม่มีปิดบัง พ่อสอนทุกๆอย่างเพื่อลูกของพ่อทุกคนจะได้พ้นทุกข์ แม้แต่ร่างกายของพ่อจะสลายตัวไป แต่ใจของพ่อยังอยู่กับลูกเสมอ ถ้าลูกของพ่อทำความดี"
คำพูดอย่างนี้เรารู้ว่าท่านพูดออกมาจากใจและสามารถพิสูจน์ได้ ท่านรับแขกจนวาระสุดท้าย วันสุดท้ายที่ท่านจากไป ต้องหามท่านไปรับแขกที่ตึกรับแขก เมื่อคนเห็นท่าน ต่างก็ร้องไห้สงสารท่านจับใจ แต่ท่านไม่ห่วงร่างกาย บอกกับแขกว่า
"ร่าวกายมันทุกข์อย่างนี้แหละ ทุกคนนั้นร่างกายไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และต้องสลายตัว" แขกที่มาก็ขอกร้องว่า หลวงพ่ออย่าเข้าสอนที่สายลมเลย หลวงพ่อจะได้พักผ่อน แต่ท่านบอกว่า "ไม่ได้ ญาติโยมเขาไม่รู้กัน ถ้าไม่เข้าสายลม คนแก่ที่มาวัดไม่ได้ ก็ไม่มีโอกาสทำบุญ สงสารคนแก่เขา"
ฉะนั้นจะเห็นได้ว่า ความเมตตาของท่านหาประมาณไม่ได้เลย แม้แต่ร่างกายของท่านเองก็ไม่ห่วงใย
สมบัติวัดท่าซุงทั้งหมดลูกรักของหลวงพ่อทุกคนได้ร่วมสร้างด้วยความรักและศรัทธาด้วยความเต็มใจ ฉะนั้นเมื่อหลวงพ่อได้ละสังขารไปแล้ว ลูกที่ดีต้องดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้อยู่ในสภาพที่พอดีแก่สภาพ ไม่ใช่สมบัติของเจ้าอาวาสหรือพระวัดท่าซุง เป็นสมบัติของพ่อมอบให้แก่ลูกๆทุกคนเป็นเจ้าของ และช่วยกันดูแล
ฉะนั้น อาตมาในฐานะที่เป็นหัวหน้าพระวัดท่าซุง ขอบอกเสียเลยว่า
"ขอให้ลูกๆทุกคนของหลวงพ่อ มาช่วยกันดูแล รักษาสมบัติของพ่อเรา คนอื่นนั้นไม่สามารถจะดูแลได้ เพราะเขาไม่ใช่ลูกพ่อ เขาไม่รู้ใจพ่อ กลัวเขาจะทำลายเสีย"
ฉะนั้น ขอให้ท่านทั้งหลาย จงประพฤติ ปฎิบัติดี ตามที่หลวงพ่อสอนเรามาให้เสมอ และมาร่วมแรง ร่วมความคิด และร่วมกันทำประโยชน์ต่อส่วนรวม และทรงความดีที่หลวงพ่อของเราสอนมาเท่านั้น หลวงพ่อก็จะอยู่กับเราทุกลมหายใจ หลวงพ่อเคยพูดว่า
"ลูกของฉัน เมื่ออกุศลกรรมให้ผล ก็อาจจะโต๋เต๋ไปบ้าง สุดท้ายลูกฉันเข้านิพพานหมด"
เป็นความชื่นใจเสมอ เมื่อหลวงพ่อพูดแบบนี้ และเราก็เต็มใจที่จะไปนิพพานไปอยู่กับพ่อแม่ของเราทุกลมหายใจเข้าออก
ฉะนั้นสุดท้ายนี้ อาตมาไม่มีอะไรจะฝาก ขอฝากลูกรักของหลวงพ่อทุกคน จงร่วมกันรักษาสมบัติของพ่อตลอดไป
ที่ีมา
http://board.palungjit.com/f23/ลูกรักพ่อ-303455.html